top of page

‘ยุค Deep Tech’ นิยามโลกยุคใหม่

  • Writer: RISE
    RISE
  • May 8
  • 2 min read

Updated: May 9

ree

ปี 2025 นี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “ยุค Deep Tech” อย่างแท้จริง เมื่อเทคโนโลยีขั้นสูงที่เคยอยู่ในห้องทดลอง กำลังหลอมรวมเข้าสู่ชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ และโครงสร้างสังคมในระดับที่ลึกและกว้างขวางกว่าที่เคยเป็นมา การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น หากแต่เป็นผลลัพธ์ของการขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และนักวิจัยทั่วโลกที่ตระหนักถึงบทบาทของเทคโนโลยี Deep Tech เหล่านี้ในการรับมือกับความท้าทายใหญ่ของมนุษยชาติ


Deep Tech คืออะไร?


คำว่า “Deep Tech” หมายถึงกลุ่มเทคโนโลยีที่มีรากฐานจากงานวิจัยเชิงลึกทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไปที่มักเน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์ในระยะสั้น โดย Deep Tech ต้องอาศัยระยะเวลาการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ต้องการเงินลงทุนที่ยั่งยืน และมักมีความเสี่ยงทางเทคนิคสูง แต่เมื่อหากประสบความสำเร็จ Deep Tech จะสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของโลกได้ในระดับรากฐาน ตัวอย่างเทคโนโลยีที่อยู่ภายใต้กลุ่มนี้ ได้แก่


ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้คอมพิวเตอร์และเครื่องจักรสามารถเลียนแบบการเรียนรู้ การตัดสินใจ และการแก้ปัญหาแบบมนุษย์ได้อย่างชาญฉลาด ตัวอย่างบริษัทผู้พัฒนา ได้แก่


  • OpenAI – บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง ChatGPT และ GPT-4 ซึ่งเป็นโมเดลภาษา AI ที่มีความสามารถสูงในการประมวลผลภาษาธรรมชาติ

  • DeepMind – บริษัทในเครือของ Google ที่พัฒนา AlphaGo และ AlphaFold ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถทำนายโครงสร้างโปรตีนได้อย่างแม่นยำ


ควอนตัมคอมพิวเตอร์ คือเทคโนโลยีการประมวลผลขั้นสูงที่ใช้หลักการของกลศาสตร์ควอนตัม เช่น การซ้อนทับ (superposition) และการพัวพัน (entanglement) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคำนวณและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนเกินกว่าที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปจะทำได้ ในปี 2025 มีบริษัทชั้นนำหลายแห่งที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง ได้แก่

  • Google – พัฒนา "Willow" ชิปควอนตัมที่มีความก้าวหน้าในการลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดของระบบควอนตัม

  • Microsoft – เปิดตัวชิป "Majorana 1" ที่ใช้คิวบิตแบบทอพอโลยี ซึ่งมีความเสถียรและทนต่อข้อผิดพลาดสูง พร้อมทั้งวางแผนรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม Azure Quantum ในอนาคต



เทคโนโลยีชีวภาพ (Bio Tech) หรือเทคโนโลยีมที่ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านชีววิทยาและวิศวกรรมในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต เพื่อประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เช่น การแพทย์ เกษตรกรรม และสิ่งแวดล้อม โดยมีบริษัทผู้พัฒนา ได้แก่


  • Colossal Biosciences – สตาร์ทอัพจากเท็กซัสที่มุ่งเน้นการฟื้นฟูสายพันธุ์สัตว์สูญพันธุ์ เช่น แมมมอธ โดยใช้เทคโนโลยีการแก้ไขยีน และได้รับเงินทุนรวม 435 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในต้นปี 2025

  • Click Therapeutics – บริษัทที่ใช้ AI ในการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อการรักษาทางจิตเวชและพฤติกรรม


หุ่นยนต์อัจฉริยะ (Intelligent Robot) หุ่นยนต์ที่ผสานความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับฮาร์ดแวร์ขั้นสูง เพื่อให้สามารถรับรู้ เรียนรู้ และตัดสินใจได้อย่างอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมจริง ตัวอย่างบริษัทผู้พัฒนา ได้แก่


  • Amazon – เปิดตัวหุ่นยนต์คลังสินค้า Vulcan ที่มีความสามารถในการรับรู้แรงสัมผัส ช่วยในการหยิบจับสินค้าที่มีรูปทรงซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ และสามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ในคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • Samsung – เปิดตัว Ballie หุ่นยนต์ผู้ช่วยอัจฉริยะสำหรับบ้าน ที่สามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม ส่งข้อความ และแสดงข้อมูลต่าง ๆ ผ่านการฉายภาพ



นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) คือเทคโนโลยีการจัดการและควบคุมสสารในระดับนาโนเมตร เพื่อพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ในด้านวัสดุ การแพทย์ และพลังงาน ตัวอย่างบริษัทผู้พัฒนา ได้แก่


  • Thermo Fisher Scientific – ผู้ผลิตอุปกรณ์นาโนและนาโนพาร์ติเคิลสำหรับงานวิจัยทางชีววิทยาและวัสดุศาสตร์

  • Applied Materials – ผู้พัฒนาอุปกรณ์สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอแสดงผลที่ใช้เทคโนโลยีนาโน


พลังงานฟิวชัน (Fusion Energy) พลังงานฟิวชันเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่มีศักยภาพในการแทนที่พลังงานฟอสซิล มีความปลอดภัยสูงซึ่งแตกต่างจากพลังนิวเคลียร์ฟิชชันแบบในอดีต ตัวอย่างบริษัทผู้พัฒนา ได้แก่

  • Commonwealth Fusion Systems – พัฒนาเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันแบบ Tokamak ) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงในการกักเก็บพลาสมาในรูปทรงวงแหวน (torus) เพื่อควบคุมปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชันบนโลก โดยเลียนแบบกระบวนการที่เกิดขึ้นในดวงอาทิตย์ โดยได้รับการสนับสนุนจาก Bill Gates

  • Helion Energy – ตั้งเป้าหมายในการผลิตพลังงานฟิวชันเพื่อการใช้งานเชิงพาณิชย์



บล็อกเชน (Block Chain) คือ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ที่มีความปลอดภัยและโปร่งใส โดยข้อมูลจะถูกจัดเก็บในรูปแบบของ "บล็อก" ซึ่งเชื่อมโยงกันเป็นโซ่ (Chain) แต่ละบล็อกจะบันทึกข้อมูลธุรกรรมและมีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย ได้แก่

  • IBM Blockchain – ให้บริการโซลูชันบล็อกเชนสำหรับองค์กรในด้านซัพพลายเชนและการเงิน 

  • Ripple – พัฒนาโซลูชันการชำระเงินระหว่างประเทศโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน 



โปรตีนทางเลือก (Alternative Proteins) ที่เป็นการพัฒนาแหล่งโปรตีนใหม่ที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างบริษัทผู้พัฒนา ได้แก่


  • Solar Foods – พัฒนา "Solein" โปรตีนที่ผลิตจากอากาศและพลังงานแสงอาทิตย์ ไม่ได้ผลิตจากสัตว์หรือพืช

  • Hoxton Farms – พัฒนาไขมันหมูที่เพาะเลี้ยงจาก Stem Cell เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เนื้อทางเลือกให้มีรสสัมผัส ประโยชน์ และรสชาติเหมือนเนื้อจริงๆ


ปี 2025 โลกยุค Deep Tech


โดยในปี 2025 นี้ ก็ได้มีสัญญาณที่ชัดเจนจากหลายประเทศและองค์กรนานาชาติที่มุ่งส่งเสริมระบบนิเวศของ Deep Tech อย่างเป็นรูปธรรม สหภาพยุโรปได้ประกาศลงทุนในเทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์อย่างควบคู่ ทั้งในด้านความมั่นคง พลังงานสะอาด และสุขภาพ ขณะที่สหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมายสนับสนุนโครงการเทคโนโลยีขั้นสูงในระดับประเทศ เช่นเดียวกับในเอเชีย ประเทศอย่างญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์ ต่างจัดทำยุทธศาสตร์ด้าน Deep Tech ระยะยาวเพื่อตอบสนองต่อการแข่งขันและความยั่งยืนในอนาคต


ในเวลาเดียวกัน ภาคธุรกิจเอกชน โดยเฉพาะบริษัทร่วมลงทุน (VC) และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ได้หันมาให้ความสำคัญกับ Deep Tech อย่างจริงจัง นักลงทุนเริ่มเห็นโอกาสในการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ไม่ใช่เพียงผลตอบแทนเชิงการเงินเท่านั้น เราจึงเริ่มเห็นสตาร์ทอัพในสาย Deep Tech ได้รับเงินทุนระดับ Series A ถึง C มากขึ้นกว่าที่เคยเป็นมาในทศวรรษก่อน


ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างเริ่มเกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวันของผู้คน AI ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของแอปพลิเคชัน แต่เริ่มเข้าไปช่วยแพทย์วินิจฉัยโรค ช่วยนักวิจัยออกแบบยาใหม่ในเวลาไม่กี่วัน ควอนตัมคอมพิวเตอร์เริ่มถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมยาและพลังงานเพื่อจำลองโมเลกุลที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ยังทำไม่ได้ หุ่นยนต์อัจฉริยะไม่ใช่เพียงแขนกลในสายการผลิต แต่เริ่มกลายเป็นผู้ช่วยในบ้านและในโรงพยาบาล เทคโนโลยีชีวภาพกำลังสร้างแนวทางใหม่ให้กับอาหาร พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ขณะที่พลังงานฟิวชันที่เคยถูกมองว่าเป็นแค่แนวคิดในอนาคต กำลังมีแนวโน้มจะกลายเป็นความจริงภายในทศวรรษนี้


ทั้งหมดนี้ทำให้เราสามารถกล่าวได้ว่า “ยุค Deep Tech” ไม่ได้อยู่แค่ในกระดาษวิจัยหรือแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์อีกต่อไป แต่มันคือยุคที่เทคโนโลยีเชิงลึกกำลังผสานเข้ากับชีวิตมนุษย์ในทุกมิติ ทั้งในรูปของการแพทย์แบบแม่นยำ พลังงานที่ไม่สิ้นสุด การผลิตที่ยั่งยืน และระบบเศรษฐกิจใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและวิทยาศาสตร์


คำถามสำคัญในยุคนี้ไม่ใช่ว่าเราพร้อมต้อนรับ Deep Tech หรือไม่ แต่คือเราจะเข้าใจมันอย่างไร ใช้มันเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดอย่างไร และจะมีส่วนร่วมในการออกแบบอนาคตนี้ในฐานะใด เพราะเมื่อโลกเข้าสู่ยุค Deep Tech อย่างแท้จริง ผู้ที่เข้าใจและลงมือก่อนจะเป็นผู้นำในโลกใหม่ที่กำลังถูกหล่อหลอมอยู่ในขณะนี้

อ้างอิงจาก Deep Tech Market - Forecast (2025 - 2031). IndustryARC. สืบค้นจาก https://www.industryarc.com/PressRelease/4227/Deep-Tech-Market


Deep Tech Investment 2024-2025: Will AI Continue to Dominate? Biforesight. สืบค้นจาก https://biforesight.com/quantum/deep-tech-investment-2024-2025-will-ai-continue-to-dominate/


The European Deep Tech Report 2025. Dealroom.co. สืบค้นจาก https://dealroom.co/reports/the-european-deep-tech-report-2025

3 Comments


Sarah Adele
Sarah Adele
Oct 30

Menikmati perjalanan mewah kini bukan sekadar impian bersama Yoshi Trans Holiday. Layanan bus pariwisata bandung memberikan pengalaman berkendara yang berkelas dan aman.Kendaraan terawat siap menemani perjalanan jarak jauh dengan nyaman. Segera kunjungi situs Yoshi Trans Holiday untuk detail layanan.

Like

Jessica Zamora
Jessica Zamora
Oct 29

reading this article about the new “ยุค Deep Tech” and how advanced technologies once confined to labs are now reshaping everyday life made me pause and think about writing a major academic piece the research might be your breakthrough idea, but getting that idea into a form that reads clearly, logically and powerfully is a whole other journey. when you’re at that stage where your knowledge is solid but your expression needs polish, turning to a trusted academic editing service UK can help you structure your argument, refine your voice and ensure the final submission truly reflects the depth of your work.

Like

John. Snow.
John. Snow.
Oct 29

I saw the article on RISE Accel exploring deep tech adoption in Thailand, it paints a clear picture of how AI, IoT and blockchain are reshaping innovation ecosystems. At the same time, the content around Online Marketing Class Help highlights how digital-era learning support tools are evolving. Together these pages reflect a wider trend: technology enabling both advanced industry shifts and new forms of educational assistance.

Like
bottom of page